กลยุทธ์ สะสมแต้ม เหมาะกับธุรกิจประเภทใด

กลยุทธ์ สะสมแต้ม เป็นวิธีการทำ CRM (Customer Relationship Management) ที่สร้างความสัมพันธ์ให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้เรื่อย ๆ ในปัจจุบันนี้เรามีเครื่องมือการตลาดที่เอื้อต่อการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น Line CRM ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้แบบเจาะจงในระดับบุคคล เรามาดูกันว่ากลยุทธ์สะสมแต้มจะมีทริคเด็ด ๆ อะไรบ้าง และธุรกิจประเภทไหนบ้างเหมาะสมที่จะใช้กลยุทธ์สะสมแต้มเพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อ

ข้อดีของการสะสมแต้ม

รักษาฐานลูกค้า

ถ้าหากธุรกิจของเราไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ได้ เราจะต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา การทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำได้อีกคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ การสะสมแต้มจะทำให้เขาอยู่ในการควบคุมของเรา เพียงตั้งเป้าหมายรางวัลการสะสมแต้มให้น่าดึงดูดมากที่สุดที่ควรค่าแก่การสะสม

ป้องกันไม่ให้ลูกค้าหันไปซื้อของแบรนด์อื่น

สาเหตุที่ลูกค้าหนีไปซื้อสินค้าหรือบริการของคู่แข่ง เพราะเราไม่สามารถรั้งพวกเขาเอาไว้ได้ การให้พวกเขาเขามาอยู่ในระบบเพื่อสะสมแต้มนั้น สามารถทำให้เขายังอยู่ในเส้นทางของการสะสมแต้มอยู่ หากว่าลูกค้าสะสมแต้มมาได้ครึ่งทางแล้ว การเลิกสะสมกลางทางนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุด

ลูกค้าประจำคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ

ธุรกิจไหนที่ไม่มีลูกค้าประจำธุรกิจนั้นจะต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา การมีลูกค้าประจำที่กลับมาซื้อซ้ำนั้นคือสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นได้ ดังนั้นการใช้กลยุทธ์สะสมแต้มสามารถทำให้ลูกค้าแต่ละคนกลับมาซื้อซ้ำได้อีกหลายครั้ง ยิ่งเราสามารถสร้างลูกค้าประจำได้มากยิ่งมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น

4 ทริคการสะสมแต้ม

กลยุทธ์สมัครสมาชิก

เราไม่สามารถเก็บลูกค้าเอาไว้ได้ถ้าไม่เริ่มจากการสมัครสมาชิกก่อน อย่าปล่อยให้ลูกค้าหลุดมือไปง่าย ๆ ดังนั้น ต้องทำแบบฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูลลงทะเบียนทุกคน และเราควรให้สิทธิพิเศษกับผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก วิธีนี้จะทำให้รู้สึกว่าพวกเขาคือคนสำคัญ

สร้างแรงจูงใจ แลกกับรางวัลใหญ่ดีกว่ารางวัลเล็ก

การสะสมแต้มนั้น ย่อมมีเป้าหมายเสมอ การสะสมแต้มจะไร้ความหมายถ้าไม่มีของรางวัลมาจูงใจ หนึ่งเรื่องที่เราต้องลงทุนและใส่ใจเป็นพิเศษคือการเลือกของรางวัล ถ้าของรางวัลเล็กไม่คุ้มค่าต่อการสะสมแต้มจะทำให้เราไม่สามารถเก็บฐานลูกค้าเอาไว้ได้ และถ้าเราเลือกให้ของรางวัลใหญ่ ๆ มาจูงใจสามารถทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ และยังทำให้เขาคิดว่าทุกแต้มที่เขาสะสมมานั้นคุ้มค่ากับเงินค้าสินค้าหรือบริการที่จ่ายไปแต่ละครั้งเพื่อแลกกับแต้ม

ลูกค้าไม่ชอบรอคอยอะไรนาน ๆ สะสมได้แล้วสามารถนำไปแลกได้เลยทันที

อีกหนึ่งทริคของการสะสมแต้มนั้น จะต้องคำนึงถึงระยะเวลาของการสะสมแต้ม เราต้องออกแบบเงื่อนไขให้ลูกค้าเดินไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ซึ่งจะต้องกำหนดระยะเวลาการสะสมแต้มไม่นานเกินไป เพราะลูกค้าไม่ชอบการรอคอย หมายความว่าเราต้องกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าให้สะสมแล้วสามารถนำไปแลกของรางวัลได้เร็วที่สุด

ผูกแต้มไว้กับสินค้าที่ค้างสต๊อก

เมื่อเรามีสินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก และต้องการเร่งขายสินค้าค้างสต๊อกให้หมดไว้ เราสามารถออกแบบการสะสมแต้มโดยตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าซื้อสินค้า (สินค้าที่ค้างสต๊อก) จะได้รับแต้มพิเศษ ทริคนี้สามารถกระตุ้นให้คนมาซื้อสินค้าที่ค้างสต๊อกมากขึ้น และส่งผลให้สินค้าขายดีขึ้น ซึ่งจะได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ผู้ขายขายสินค้าดีขึ้น และผู้ซื้อได้แต้มเพิ่มขึ้น

ตัวอย่างธุรกิจ 3 ประเภทที่ใช้กลยุทธ์สะสมแต้ม

ภัตตาคาร ร้านอาหาร

ธุรกิจร้านอาหาร หรือภัตตาคาร โดยเฉพาะร้านใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเป็นร้านที่มีหลายสาขานั้น นอกจากจะมีระบบ POS ที่จัดการกับการสั่งออเดอร์อย่างเป็นระบบแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์สะสมแต้มด้วย เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ และยังทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำได้อีก เช่น ร้านอาหารของโรงแรมในระดับ 3 - 5 ดาว หรือร้านอาหารแบรนด์ดังติดหูที่เปิดสาขาตามศูนย์การค้าต่าง ๆ นอกจากจะโฆษณาหรือประกาศโปรโมชันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแล้ว กลยุทธ์สะสมแต้มสามารถจูงใจให้ลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้บริการที่ร้านได้อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจความงาม

ธุรกิจความงามที่มีร้านอยู่หลายสาขาทั่วประเทศก็สามารถใช้กลยุทธ์สะสมแต้มได้เช่นกัน เช่น หากธุรกิจมี 10 สาขา ทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถไปใช้บริการที่สาขาไหนก็ได้เพื่อให้ลูกค้าได้สะสมแต้มตามสาขาต่าง ๆ ทั้วประเทศแบบไม่ต้องจำกัดสาขา และสร้างแรงจูงใจว่าถ้าสะสมแต้มครบจำนวนกี่แต้ม จะได้รับสิทธิพิเศษอะไรบ้าง ถึงแม้ฝีมือการเสริมสวยหรือตัดผมจะเป็นที่ยอมรับแล้ว และมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ในอนาคตเราอาจเสียฐานลูกค้าเดิมไปได้ ดังนั้น การสะสมแต้มจะสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ได้ ยิ่งลูกค้าที่แต้มอยู่ในกำมือเป็นจำนวนมากจะยิ่งทำให้เขาอยากกลับมาใช้บริการของเราอีกเพื่อพิชิตสิทธิพิเศษที่เขาจะได้รับ

โรงแรมและที่พัก

ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิที่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์สะสมแต้ม เพื่อให้ลูกค้าที่เคยเข้ามาพักได้กลับมาพักหลาย ๆ ครั้ง โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องออกเดินทางมายังพื้นที่เดิมเป็นประจำ และเพื่อป้องกันไม่ให้เขาไปใช้บริการที่พักอื่นเราต้องทำกลยุทธ์สะสมแต้มจูงใจให้เขากลับมาใช้บริการอีกครั้ง อาจจะตั้งรางวัลเป็นจองห้องพักฟรี 1 คืน เมื่อสะสมแต้มการเข้าพักครบ 100 แต้ม (10 แต้ม = การเข้าพัก 1 ครั้ง)

จากตัวอย่างข้างต้น เป็นวิธีที่สามารถใช้แต้มเข้ามาเป็นตัวช่วยในการทำ CRM และรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ได้ รวมถึงสร้างยอดขายได้ด้วย วิธีการเหล่านี้สามารถทำได้ด้วย Line CRM ที่สามารถจัดการกับข้อมูลของลูกค้าที่อยู่ในระบบเป็นจำนวนมากได้

shutterstock_387548641

ตัวอย่างกลยุทธ์สะสมแต้มธุรกิจร้านอาหารที่มีร้านหลายสาขา

ร้าน Coffee & Bakery House ที่ใช้กลยุทธ์สะสมแต้ม โดยมีเงื่อนไขว่า ลูกค้าสามารถนำแต้มที่สะสมมาแลกซื้ออาหารได้ตามเมนูที่ร่วมรายการ ดังนี้

เมื่อซื้อสินค้าทุก ๆ 200 บาท รับ +10 Points จากการสแกน QR Code

200 บาท : 10 Point
400 บาท : 20 Point
600 บาท : 30 Point
800 บาท : 40 Point
1,000 บาท : 50 Point
1,200 บาท : 60 Point
1,400 บาท : 70 Point
1,600 บาท : 80 Point
1,800 บาท : 90 Point
2,000 บาท : 100 Point

แต้มที่สะสมไว้สามารถนำมาแลกซื้อรายการอาหารได้ดังนี้

10 Point = None
20 Point = None
30 Point = แลกซื้อ Yuzu Black Coffee
40 Point = แลกซื้อ Brownie Cheesecake
50 Point = แลกซื้อ Banana Choco
60 Point = แลกซื้อ Strawberries Cheesecake
70 Point = แลกซื้อ Wing Chick
80 Point = แลกซื้อ Butter Lemon Cake
90 Point = แลกซื้อ Beef Master
100 Point = แลกซื้อ All menus

จากตัวอย่างกลยุทธ์สะสมแต้มของธุรกิจร้านอาหาร เราสามารถเก็บฐานลูกค้าเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และยังกระตุ้นให้ลูกค้าเก่าได้กลับมาใช้บริการที่ร้านได้ซ้ำ ๆ ซึ่ง Line CRM เป็นระบบที่สามารถตั้งค่าให้ทำงานแทนเราแบบอัตโนมัติได้ ถ้าเราได้รู้วิธีการใช้และเข้าใจระบบเป็นอย่างดี เราสามารถใช้ Line CRM เข้ามาจัดการกับกลุ่มลูกค้าในธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าคุณสนใจทำกลยุทธ์สะสมแต้มด้วยระบบอันชาญฉลาดของ Line CRM ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ourgreenfish The Digital Marketing