ห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain ถือเป็นจุดเปราะบางที่อาจสร้างวิกฤตให้กับแบรนด์ได้ง่ายดาย ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Risk) สามารถเกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดฝันหลายรูปแบบ เช่น ความไม่สงบทางการเมือง ปัญหาด้านการขนส่ง หรือ การเงินของซัพพลายเออร์ที่มีปัญหา ซึ่งล้วนส่งผลให้ซัพพลายเชนหยุดชะงัก ผลกระทบที่ตามมาคือการส่งมอบสินค้าล่าช้าหรือไม่ได้ตามสัญญา และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือความน่าเชื่อถือที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ถูกสั่นคลอน ธุรกิจที่ปล่อยให้ซัพพลายเชนสะดุดโดยไม่เตรียมการรับมืออาจเผชิญกับความเสียหายด้านชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของลูกค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มุมมอง CX : ความโปร่งใสและการสื่อสารสำคัญไม่แพ้ตัวสินค้า
การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า (Customer Experience หรือ CX) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความโปร่งใสและการสื่อสารที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยเฉพาะในยามที่เกิดปัญหา ในสถานการณ์ที่ซัพพลายเชนติดขัด สิ่งที่ลูกค้าต้องการคือการได้รับข้อมูลและคำชี้แจงอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา การแจ้งสถานะคำสั่งซื้อ กำหนดการส่งมอบที่ปรับใหม่ หรือสาเหตุของความล่าช้าให้ลูกค้าทราบอย่างโปร่งใสแบบเรียลไทม์จะช่วยรักษาความพึงพอใจและความไว้วางใจของลูกค้าไว้ได้มากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วความเชื่อใจของลูกค้าล้วนต้องอาศัยการสื่อสารที่ชัดเจนและทันการณ์จากแบรนด์เพื่อรักษาความคาดหวังและความไว้วางใจนั้นไว้
แนวทางแก้ไข
เพื่อลดผลกระทบของความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนต่อ CX แบรนด์สามารถนำเทคโนโลยีและแนวทางเชิงรุกมาใช้ดังต่อไปนี้
ใช้ CRM สื่อสารและอัปเดตลูกค้าโดยตรง: ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้าในช่วงที่ซัพพลายเชนเกิดปัญหา แบรนด์สามารถส่งอีเมล แจ้งเตือนผ่าน SMS หรือส่งข้อความผ่านช่องทางแชทให้ลูกค้าทราบสถานะคำสั่งซื้อที่ล่าช้าได้โดยตรงผ่านข้อมูลที่มีใน CRM. การสื่อสารเชิงรุกเช่นนี้แสดงถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบของแบรนด์ ลดความไม่พอใจที่เกิดจากการต้องรอคอยโดยไม่มีคำอธิบาย ยิ่งไปกว่านั้น การผสาน CRM เข้ากับช่องทางที่ลูกค้าใช้เป็นประจำ เช่น การเชื่อมต่อบัญชี LINE Official Account เข้ากับ HubSpot CRM ช่วยให้การส่งข้อมูลถึงมือลูกค้าเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ใช้ CDP คาดการณ์ความต้องการและความเสี่ยงล่วงหน้า: แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (Customer Data Platform - CDP) ช่วยรวบรวมและรวมศูนย์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าจากทุกช่องทาง ทำให้แบรนด์มองเห็นแนวโน้มความต้องการและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ชัดเจน การนำ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบการทำนาย (Predictive Analytics) จะช่วยให้บริษัทคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าได้ เช่น สินค้าใดมีแนวโน้มขาดตลาดหรือคำสั่งซื้อใดอาจเกิดความล่าช้า รวมถึงประเมินได้ด้วยว่าลูกค้ากลุ่มใดมีความเสี่ยงจะไม่พึงพอใจมากที่สุดหากเกิดความล่าช้า บริษัทจึงสามารถเตรียมแผนรับมือและวางแนวทางสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น หาก CDP ชี้ว่าลูกค้า VIP หรือสินค้ายอดนิยมบางรายการจะได้รับผลกระทบ ทีมงานก็สามารถจัดลำดับความสำคัญในการดูแลหรือมอบข้อเสนอพิเศษเพื่อรักษาความพึงพอใจของลูกค้ากลุ่มนี้ไว้
เชื่อมระบบ eCommerce เข้ากับ CRM เพื่อความได้เปรียบในการตอบสนอง: การผสานข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกับระบบ CRM ทำให้ข้อมูลคำสั่งซื้อ สต็อกสินค้า และสถานะการจัดส่งถูกรวบรวมไว้ในศูนย์กลางเดียว ทีมงานทุกฝ่ายตั้งแต่ฝ่ายขาย การตลาด ไปจนถึงบริการหลังการขายสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดของลูกค้าและคำสั่งซื้อได้ทันที จึงประสานงานแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดปัญหาในซัพพลายเชน ยกตัวอย่างเช่น โซลูชัน Connectio ที่เชื่อมต่อข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Line MyShop เข้ากับ HubSpot CRM จะช่วยให้ธุรกิจเห็นข้อมูลลูกค้าและสถานะคำสั่งซื้อทั้งหมดแบบ 360 องศาในที่เดียว การมีข้อมูลรวมศูนย์เช่นนี้ส่งผลให้ธุรกิจตัดสินใจได้แม่นยำบนพื้นฐานข้อมูลและตอบสนองลูกค้าได้ฉับไว ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่สะดุดแม้ยามเกิดปัญหา ซึ่งความสามารถนี้เองถือเป็นความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของธุรกิจยุคใหม่
ผลลัพธ์ : แบรนด์ที่ใส่ใจสร้างลูกค้าที่ภักดีระยะยาว
แม้มาตรการทั้งหมดข้างต้นจะไม่ได้ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น แต่สิ่งที่ลูกค้าได้รับคือประสบการณ์ที่ดีขึ้นในด้านความรู้สึก ลูกค้ารับรู้ว่าแบรนด์ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหา แต่แสดงความใส่ใจและความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ความโปร่งใสและความเอาใจใส่นี้ช่วยรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าไว้ ส่งผลให้ลูกค้ายังคงเลือกใช้สินค้าและบริการของแบรนด์ต่อไป ในระยะยาว ความภักดีที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าจะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจอย่างมหาศาล งานวิจัยพบว่าการดูแลลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลผ่านระบบ CRM สามารถลดอัตราการสูญเสียลูกค้า (churn rate) และเพิ่มความภักดีของลูกค้าได้จริง กล่าวได้ว่าการจัดการกับ Supply Chain Risk โดยคำนึงถึง CX ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการลงทุนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ซึ่งกลายเป็นรากฐานของความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจ
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Risk Management Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/risk-management-explained/
อ่านบทความเพิ่มเติม : CUSTOMER EXPERIENCE คืออะไร แล้วสำคัญอย่างไรกับการทำธุรกิจคุณ
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com
No Comments