Emotional Intelligence (EQ) คือความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น ซึ่งแตกต่างจาก IQ ที่เน้นด้านสติปัญญา EQ เป็นทักษะสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เน้น "ประสบการณ์ของผู้รับบริการ" อย่าง Healthcare & Wellness
ทำความเข้าใจ Emotional Intelligence ในธุรกิจสุขภาพ
ธุรกิจสุขภาพไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แต่เป็นการส่งมอบ “ความไว้วางใจ” และ “ความอุ่นใจ” ให้กับลูกค้า EQ จึงเป็นเสมือน “ภาษาที่มองไม่เห็น” ในการสื่อสารกับผู้ใช้บริการในระดับที่ลึกกว่าคำพูด
Daniel Goleman ผู้บุกเบิกแนวคิด EQ ได้แบ่งองค์ประกอบไว้ 5 ด้าน
- Self-awareness: เข้าใจอารมณ์ตัวเอง
- Self-regulation: ควบคุมอารมณ์ไม่ให้กระทบงาน
- Motivation: ทำงานด้วยแรงจูงใจจากภายใน
- Empathy: เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น
- Social Skills: สื่อสารและสร้างเครือข่ายได้ดี
ในบริบทธุรกิจสุขภาพ การเข้าใจความกลัว ความไม่แน่ใจ หรือความหวังของผู้ป่วย เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและความสัมพันธ์ระยะยาว
ทำไมทีมขาย ทีมบริการ และผู้บริหารต้องมี Emotional Intelligence
- ทีมขาย: ปิดการขายด้วยความเข้าใจ
ลูกค้าที่เลือกบริการด้านสุขภาพมักมีความกังวลซ่อนอยู่ เช่น กลัวผลข้างเคียง ไม่แน่ใจในมาตรฐานการดูแล หรือไม่มั่นใจในราคา
ทีมขายที่มี Emotional Intelligence สูงจะ
- ฟังอย่างเข้าใจ (Active Listening)
- แสดงความเห็นใจ (Empathy)
- ใช้คำพูดที่ปลอดภัย (Safe Language)
- รู้จักสังเกต Non-verbal cues
ผลลัพธ์คือ อัตราการปิดการขายที่สูงขึ้น และลูกค้ารู้สึกว่าตนได้รับการดูแล ไม่ใช่แค่ถูกขาย
- ทีมบริการ: เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นแฟนพันธุ์แท้
บริการหลังการขายในธุรกิจสุขภาพมีผลโดยตรงต่อ ความพึงพอใจและการกลับมาใช้บริการซ้ำ
ตัวอย่างเช่น พนักงานที่สื่อสารด้วยความเข้าใจ แม้ต้องแจ้งข่าวร้ายหรือล่าช้า ก็ยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ หากใช้ทักษะ Emotional Intelligence ได้ดี
งานวิจัยจาก Rutgers University พบว่า พนักงานขายของ L'Oréal ที่ถูกคัดเลือกจากระดับ Emotional Intelligence ขายสินค้าได้มากกว่าค่าเฉลี่ยถึง $91,370
- ผู้บริหาร: ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรแบบ Human-Centric
องค์กรสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับ Emotional Intelligence ตั้งแต่ระดับผู้นำ จะสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
ผู้บริหารที่มี Emotional Intelligence
- สร้างความไว้ใจในทีม
- รับฟังปัญหาของพนักงานอย่างแท้จริง
- กระตุ้นการมีส่วนร่วม (Engagement) ของทีมบริการ
ผลลัพธ์คือ Turnover ต่ำ และ Customer Experience ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน
ตัวอย่างการฝึก Emotional Intelligence ให้กับทีม
- Emotional Intelligence Workshop แบบ Role Play
จำลองสถานการณ์ที่พนักงานต้องรับมือกับลูกค้าโกรธ หรือเคสฉุกเฉิน เพื่อฝึก:
- การควบคุมอารมณ์
- การฟังอย่างตั้งใจ
- การใช้คำพูดสร้างสรรค์
- Reflective Journaling
ให้พนักงานจดบันทึกอารมณ์ตัวเองหลังบริการลูกค้าแต่ละราย เพื่อเพิ่ม self-awareness และปรับ mindset
- Empathy Mapping
เครื่องมือที่ใช้ระบุว่า ลูกค้า “คิด รู้สึก พูด ทำ” อย่างไร เพื่อเข้าใจ pain points และความต้องการในมุมมองอารมณ์
- ใช้ CRM ที่มีฟังก์ชันการบันทึกเชิงอารมณ์
CRM อย่าง HubSpot หรือ Segment สามารถช่วยให้ทีมบันทึก emotional touchpoints และ personalize การตอบสนองได้แม่นยำขึ้น
Emotional Intelligence ไม่ใช่แค่ Soft Skill แต่คือ Core Strategy
ในยุคที่แบรนด์ทุกเจ้ามีสินค้าและบริการคล้ายกัน สิ่งที่ต่างกันคือ “ความสัมพันธ์” ซึ่ง Emotional Intelligence คือหัวใจของกลยุทธ์ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยเฉพาะในธุรกิจ Healthcare & Wellness ที่ทุกประสบการณ์คือความรู้สึก
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com
อ่านบทความเพิ่มเติม :
กุญแจสู่ความสำเร็จ!: สร้างทักษะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในองค์กร SMES
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com
No Comments