<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

Emotional Intelligence ในธุรกิจสุขภาพ Soft Skill ที่ขาดไม่ได้

Audio Version
Emotional Intelligence ในธุรกิจสุขภาพ Soft Skill ที่ขาดไม่ได้
4:49

Emotional Intelligence (EQ) คือความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น ซึ่งแตกต่างจาก IQ ที่เน้นด้านสติปัญญา EQ เป็นทักษะสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เน้น "ประสบการณ์ของผู้รับบริการ" อย่าง Healthcare & Wellness

ทำความเข้าใจ Emotional Intelligence ในธุรกิจสุขภาพ

ธุรกิจสุขภาพไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แต่เป็นการส่งมอบ “ความไว้วางใจ” และ “ความอุ่นใจ” ให้กับลูกค้า EQ จึงเป็นเสมือน “ภาษาที่มองไม่เห็น” ในการสื่อสารกับผู้ใช้บริการในระดับที่ลึกกว่าคำพูด

Daniel Goleman ผู้บุกเบิกแนวคิด EQ ได้แบ่งองค์ประกอบไว้ 5 ด้าน

  • Self-awareness: เข้าใจอารมณ์ตัวเอง
  • Self-regulation: ควบคุมอารมณ์ไม่ให้กระทบงาน
  • Motivation: ทำงานด้วยแรงจูงใจจากภายใน
  • Empathy: เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น
  • Social Skills: สื่อสารและสร้างเครือข่ายได้ดี

ในบริบทธุรกิจสุขภาพ การเข้าใจความกลัว ความไม่แน่ใจ หรือความหวังของผู้ป่วย เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและความสัมพันธ์ระยะยาว


ทำไมทีมขาย ทีมบริการ และผู้บริหารต้องมี Emotional Intelligence

  1. ทีมขาย: ปิดการขายด้วยความเข้าใจ

ลูกค้าที่เลือกบริการด้านสุขภาพมักมีความกังวลซ่อนอยู่ เช่น กลัวผลข้างเคียง ไม่แน่ใจในมาตรฐานการดูแล หรือไม่มั่นใจในราคา

ทีมขายที่มี Emotional Intelligence สูงจะ

  • ฟังอย่างเข้าใจ (Active Listening)
  • แสดงความเห็นใจ (Empathy)
  • ใช้คำพูดที่ปลอดภัย (Safe Language)
  • รู้จักสังเกต Non-verbal cues

ผลลัพธ์คือ อัตราการปิดการขายที่สูงขึ้น และลูกค้ารู้สึกว่าตนได้รับการดูแล ไม่ใช่แค่ถูกขาย

 E-book-Sales Qualification Questions

  1. ทีมบริการ: เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นแฟนพันธุ์แท้

บริการหลังการขายในธุรกิจสุขภาพมีผลโดยตรงต่อ ความพึงพอใจและการกลับมาใช้บริการซ้ำ

ตัวอย่างเช่น พนักงานที่สื่อสารด้วยความเข้าใจ แม้ต้องแจ้งข่าวร้ายหรือล่าช้า ก็ยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ หากใช้ทักษะ Emotional Intelligence ได้ดี

งานวิจัยจาก Rutgers University พบว่า พนักงานขายของ L'Oréal ที่ถูกคัดเลือกจากระดับ Emotional Intelligence ขายสินค้าได้มากกว่าค่าเฉลี่ยถึง $91,370

shutterstock_2434914271

  1. ผู้บริหาร: ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรแบบ Human-Centric

องค์กรสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับ Emotional Intelligence ตั้งแต่ระดับผู้นำ จะสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

ผู้บริหารที่มี Emotional Intelligence

  • สร้างความไว้ใจในทีม
  • รับฟังปัญหาของพนักงานอย่างแท้จริง
  • กระตุ้นการมีส่วนร่วม (Engagement) ของทีมบริการ

ผลลัพธ์คือ Turnover ต่ำ และ Customer Experience ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน

How to Imporve Customer Experience

ตัวอย่างการฝึก Emotional Intelligence ให้กับทีม

  1. Emotional Intelligence Workshop แบบ Role Play

จำลองสถานการณ์ที่พนักงานต้องรับมือกับลูกค้าโกรธ หรือเคสฉุกเฉิน เพื่อฝึก:

  • การควบคุมอารมณ์
  • การฟังอย่างตั้งใจ
  • การใช้คำพูดสร้างสรรค์
  1. Reflective Journaling

ให้พนักงานจดบันทึกอารมณ์ตัวเองหลังบริการลูกค้าแต่ละราย เพื่อเพิ่ม self-awareness และปรับ mindset

  1. Empathy Mapping

เครื่องมือที่ใช้ระบุว่า ลูกค้า “คิด รู้สึก พูด ทำ” อย่างไร เพื่อเข้าใจ pain points และความต้องการในมุมมองอารมณ์

  1. ใช้ CRM ที่มีฟังก์ชันการบันทึกเชิงอารมณ์

CRM อย่าง HubSpot หรือ Segment สามารถช่วยให้ทีมบันทึก emotional touchpoints และ personalize การตอบสนองได้แม่นยำขึ้น

Emotional Intelligence ไม่ใช่แค่ Soft Skill แต่คือ Core Strategy

ในยุคที่แบรนด์ทุกเจ้ามีสินค้าและบริการคล้ายกัน สิ่งที่ต่างกันคือ “ความสัมพันธ์” ซึ่ง Emotional Intelligence คือหัวใจของกลยุทธ์ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยเฉพาะในธุรกิจ Healthcare & Wellness ที่ทุกประสบการณ์คือความรู้สึก

 

อ้างอิง : Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com

อ่านบทความเพิ่มเติม :

กุญแจสู่ความสำเร็จ!: สร้างทักษะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในองค์กร SMES

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast