ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดโดยเฉพาะในสาย Healthcare & Wellness การหาลูกค้าใหม่อาจดูเหมือนเป็นคำตอบเดียวของการเติบโต แต่คุณอาจไม่รู้ว่า กลยุทธ์ Customer Relationship ที่ดี สามารถช่วยคุณ ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืน ได้มากกว่าที่คุณคิด
ทำไมการหาลูกค้าใหม่ถึง “แพง” กว่าการรักษาลูกค้าเก่า?
งานวิจัยจาก Bain & Company ระบุว่า “ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่สูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่าถึง 5 เท่า” และหากคุณสามารถเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าไว้ได้เพียง 5% จะสามารถเพิ่มกำไรได้ถึง 25%–95% นี่จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจสมัยใหม่ควรโฟกัสการสร้างและดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า มากกว่าการทุ่มงบโฆษณาเพียงอย่างเดียว
ดูง่าย ๆ จากเปรียบเทียบต่อไปนี้
กลยุทธ์แบบ Long-Term : สร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ลูกค้า “อยู่กับเราไปนานๆ”
ในหนังสือ Customer Relationship Explained ได้เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนระหว่างบริษัทที่มองระยะสั้นกับบริษัทที่มองระยะยาวว่า
- บริษัทแบบ Short-Term Thinking จะเน้นปิดการขายไว แล้วก็ปล่อยลูกค้าไป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียลูกค้าและต้องหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอ
- ในขณะที่ Long-Term Thinking Company จะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ ติดตามหลังการขาย สร้างความผูกพัน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มยอดขายซ้ำ และสร้างการแนะนำจากปากต่อปาก
เข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของลูกค้าด้วย Customer Lifetime Value (CLV)
หนึ่งในแนวคิดสำคัญของการทำ Customer Relationship ที่เจ้าของธุรกิจ Healthcare & Wellness ต้องรู้คือ Customer Lifetime Value (CLV)
CLV = รายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้าหนึ่งราย ตลอดช่วงเวลาที่ลูกค้ารายนั้นยังเป็นลูกค้าอยู่
การคิดแบบนี้ทำให้เราตระหนักว่า
- ลูกค้ารายหนึ่งอาจซื้อแพ็กเกจสุขภาพหลักหมื่นในครั้งแรก
- แต่หากเราสร้างความพึงพอใจ เขาอาจกลับมาใช้บริการซ้ำ หรือแนะนำคนในครอบครัวเพิ่มอีก 5 ราย
- ทำให้มูลค่ารวมจากลูกค้าเพียงคนเดียวอาจสูงถึงหลักแสน
ในอุตสาหกรรมสุขภาพที่เน้นความเชื่อมั่นและประสบการณ์ CLV จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ควรนำมาใช้ในการประเมิน ROI มากกว่าการมองยอดขายแค่ “ครั้งแรก”

จะเริ่มสร้าง Customer Relationship ที่ยั่งยืนได้อย่างไร?
- ใช้เทคโนโลยี CRM อย่างมีประสิทธิภาพ
โซลูชันอย่าง HubSpot CRM หรือ Segment CDP สามารถช่วยรวมข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทาง และวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อปรับแต่งการสื่อสารได้ตรงจุด บริษัทที่ใช้ HubSpot รายงานว่า อัตราการคลิกในอีเมล (CTR) สูงขึ้น 70%
- สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization)
ในธุรกิจ Wellness ลูกค้าแต่ละคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน บางคนต้องการลดน้ำหนัก บางคนเน้นการบำบัดระยะยาว การปรับประสบการณ์ให้เหมาะสม เช่น
- ส่งอีเมลแนะนำคอร์สเฉพาะบุคคล
- แจ้งเตือนการนัดหมายผ่าน LINE CRM
- มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ใช้บริการซ้ำ
- ติดตามผลและวัดความพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง
การใช้แบบสอบถามสั้นหลังการบริการ หรือให้ลูกค้าให้เรตติ้งทันทีหลังการใช้งาน จะช่วยให้คุณเข้าใจ Pain Point และปรับปรุงบริการก่อนที่จะเสียลูกค้าไป
>>> ใช้ HUBSPOT สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ (CSAT) สำหรับธุรกิจสุขภาพ
- รางวัลและ Loyalty Program ที่มีค่า
ระบบ Loyalty ที่ดีไม่ใช่แค่ “แจกแต้ม” แต่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เช่น
- ระดับสมาชิก VIP สำหรับผู้ใช้บริการรายปี
- สิทธิ์เข้าร่วมเวิร์กช็อปฟรี
- มอบโปรแกรมสุขภาพเฉพาะกลุ่ม (Personalized Wellness Plan)
เปลี่ยนมุมมองจากการขาย มาเป็นการสร้างความสัมพันธ์
ในธุรกิจสาย Healthcare & Wellness การ "ดูแล" สำคัญกว่าการ "ขาย" การสร้าง Customer Relationship ที่ดีจะช่วยให้คุณ
- ลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่
- เพิ่มโอกาสขายซ้ำและยอดซื้อเฉลี่ยต่อคน
- สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและพูดถึง
- ได้รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น
หากคุณยังเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบยิงโฆษณาแล้วจบ คงถึงเวลา “ทบทวน” และเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาวอย่างแท้จริง
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com
อ่านบทความเพิ่มเติม :
การทำ CRM คือ อะไร มีประโยชน์อย่างไรในการทำธุรกิจ
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com
No Comments