<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

21 วิธีสร้างสายสัมพันธ์ลูกค้าในธุรกิจ Wellness และความงาม

Audio Version
21 วิธีสร้างสายสัมพันธ์ลูกค้าในธุรกิจ Wellness และความงาม
5:56

ในยุคที่ลูกค้ามีทางเลือกมากมายและความคาดหวังสูงขึ้น “ความสัมพันธ์กับลูกค้า” ไม่ใช่แค่เรื่องของการขายอีกต่อไป แต่คือการสร้างความไว้วางใจ ความผูกพัน และการกลับมาซื้อซ้ำ โดยเฉพาะในธุรกิจ Wellness และความงามที่ลูกค้าต้องการ “ประสบการณ์” มากกว่าแค่ “ผลิตภัณฑ์”

ทำไม “สายสัมพันธ์กับลูกค้า” สำคัญกับธุรกิจ Wellness?

จากงานวิจัยของ Business Explained ธุรกิจที่เน้นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวมีโอกาสขายซ้ำสูงถึง 60-70% ขณะที่โอกาสขายให้ลูกค้าใหม่มีเพียง 5-20% เท่านั้น

แบ่งระดับกลยุทธ์จากง่ายไปยาก

🔹 ระดับเริ่มต้น (ง่ายและเริ่มต้นได้ทันที)

  1. ขอบคุณลูกค้าทุกครั้ง
    ใช้คำพูดเรียบง่าย เช่น “ขอบคุณที่ไว้วางใจเรา” หรือเขียนการ์ดขอบคุณแนบในกล่องสินค้าสำหรับแบรนด์ความงาม

  2. ใช้คำพูดเชิงบวก
    ฝึกทีมงานพูดจานุ่มนวล เช่น “ยินดีช่วยเหลือเสมอ” แทน “บอกแล้วว่า…” สร้างความรู้สึกปลอดภัย

  3. เปิดช่องทางติดต่อหลายรูปแบบ
    เช่น LINE OA, Instagram, โทรศัพท์ หรือแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อลดแรงเสียดทานเวลาลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ

  4. ฟังลูกค้าอย่างตั้งใจ (Active Listening)
    อย่าขัดกลางประโยค ใช้คำว่า “ขออนุญาตสรุปอีกครั้งว่า…” เพื่อยืนยันความเข้าใจตรงกัน

  5. เสนอสิทธิพิเศษเล็กน้อยให้ลูกค้าประจำ
    เช่น ส่วนลดวันเกิด, ทดลองใช้บริการใหม่ฟรี หรือ early access โปรแกรม Detox

  6. มีแบบสอบถามความพึงพอใจหลังใช้บริการ
    ทำง่าย ๆ ผ่าน Google Form หรือ LINE OA และ “นำผลไปปรับปรุงจริง” เพื่อสร้างความเชื่อใจ

🔸 ระดับกลาง (ต้องวางแผนเพิ่ม แต่มีผลชัดเจน)

  1. ใช้ระบบ CRM เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าแบบละเอียด
    เช่น HubSpot CRM ที่สามารถบันทึกพฤติกรรมการซื้อ ความสนใจ และพฤติกรรมการใช้งาน เพื่อสื่อสารได้ตรงจุด
  2. จัดกิจกรรมชุมชน เช่น Wellness Talk หรือเวิร์กช็อปออนไลน์
    เชิญลูกค้ามาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เช่น “โภชนบำบัด” หรือ “โยคะแก้เครียด”

  3. ให้บริการแบบ Personalized
    เช่น ส่งผลิตภัณฑ์แนะนำเฉพาะบุคคลผ่าน LINE โดยอิงจากประวัติการซื้อและพฤติกรรมการใช้งาน

  4. ส่งเนื้อหา (Content) ที่ตรงใจลูกค้า
    เช่น บล็อกเกี่ยวกับการดูแลผิวช่วงฤดูฝนสำหรับกลุ่มวัยทำงาน หรือวิดีโอสาธิตการนวดหน้า
    HubSpot CMS - Content Hub
  5. เชิญลูกค้ามาร่วมออกแบบบริการ (Co-creation)
    เช่น ให้ลูกค้าเลือกสูตรน้ำมันนวดในคอร์ส Aroma Spa ที่ชื่นชอบ

  6. ตั้งเป้าหมายร่วมกันกับลูกค้า
    เช่น “ลดน้ำหนัก 5 กิโลใน 60 วัน” แล้วติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

shutterstock_1184139997🔺 ระดับสูง (เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยั่งยืน)

  1. จัดการประชุมลูกค้ารายไตรมาส
    โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Wellness VIP เพื่อรับฟังปัญหาเชิงลึก เช่น อาหารไม่ตอบโจทย์ หรือบริการไม่สอดคล้องกับ lifestyle

  2. วิเคราะห์จุดเจ็บปวด (Pain Point) ด้วย Data จาก CDP เช่น Segment
    เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมลูกค้าบางกลุ่มเลิกใช้บริการไป และนำมาปรับกลยุทธ์อย่างแม่นยำ
    New call-to-action
  3. ตั้ง Loyalty Program ที่มากกว่าการสะสมแต้ม
    ใช้โมเดล “สมาชิกทองคำ” ที่ให้สิทธิ์ early booking, ส่วนลดพิเศษ, หรือสิทธิ์ทดลองสินค้าก่อนใคร2025 Company Profile (3)

  4. ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อแนะนำบริการล่วงหน้า
    เช่น ใช้ AI ทำนายว่าลูกค้า A น่าจะสนใจทำ Detox ซ้ำใน 3 เดือนข้างหน้า

  5. จัดทำระบบ Referral ที่มีรางวัลจริงจัง
    เช่น ลูกค้าแนะนำเพื่อนได้รับคอร์สนวดฟรี 1 ครั้ง และเพื่อนที่สมัครใหม่ก็ได้ส่วนลด 20%

  6. ฝึกพนักงานให้เข้าใจจิตวิทยาลูกค้าและ Emotional Intelligence
    เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ลูกค้าอารมณ์ร้อน หรือมีความคาดหวังสูง
    >>> EMOTION DRIVEN CHOICES : เมื่อผู้บริโภคเลือกแบรนด์จากความรู้สึก

  7. ยอมรับความผิดพลาดเมื่อเกิดขึ้น และเสนอทางออกทันที
    เช่น ถ้าลูกค้าไม่พอใจกับผลการดูแลผิว ให้เสนอการดูแลซ้ำหรือคืนเงินโดยไม่ต้องให้ลูกค้าทวงถาม
    Customer Feedback Management
  8. สื่อสารอย่างโปร่งใสและสม่ำเสมอ
    อัปเดตข่าวสารหรือความเปลี่ยนแปลงผ่านอีเมลหรือ LINE และเน้นว่า “เราใส่ใจคุณจริง ๆ”

  9. ออกแบบประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกเป็นพิเศษเสมอ
    เช่น ตั้งชื่อ Treatment Room ด้วยชื่อลูกค้าประจำในวันเกิด หรือเรียกลูกค้าด้วยชื่อในแอป

Wellness ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่คือ “ความสัมพันธ์ระยะยาว”

การทำธุรกิจ Wellness & ความงามให้ยั่งยืน ต้องเริ่มที่ “ใจ” ของลูกค้า บทเรียนจากแบรนด์ระดับโลก เช่น IKEA, Apple และ Airbnb คือการให้คุณค่ากับลูกค้าในทุก ๆ จุดสัมผัส ทั้งหน้าร้าน แชท โทรศัพท์ หรือแม้แต่โพสต์ในโซเชียลมีเดีย

หากคุณสามารถสร้างความผูกพัน (Emotional Connection) ได้ ธุรกิจของคุณจะไม่เพียง “มีลูกค้า” แต่จะมี “แฟนพันธุ์แท้” ที่พร้อมกลับมาและบอกต่ออย่างเต็มใจ

อ้างอิง : Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com

อ่านบทความเพิ่มเติม :

การทำ CRM คือ อะไร มีประโยชน์อย่างไรในการทำธุรกิจ

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast