50 Metrics ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล

Audio Version
50 Metrics ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล
26:45

มาตรฐานการตลาดและการบริหารลูกค้าสำหรับธุรกิจโรงพยาบาล การเรียนรู้และการปรับใช้ Metric ทางการตลาดและการบริหารลูกค้าเหล่านี้กับโรงพยาบาลไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจถึงความต้องการและความคาดหวังของผู้ป่วยได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการจัดการที่มีประสิทธิภาพและการเสริมสร้างคุณภาพบริการตามมาตรฐานระดับสากล

50 METRICS ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล
1. การวิเคราะห์การตลาด (Marketing Analysis)

การวิเคราะห์ตลาดมีความสำคัญในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ป่วยและการใช้บริการในโรงพยาบาล โดยรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประชากรในพื้นที่, คู่แข่ง, และแนวโน้มของอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจด้านการตลาดและการบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย

2. การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management - CRM)

ระบบ CRM ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถจัดการข้อมูลผู้ป่วยและประวัติการรักษาอย่างมีระบบ โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงคุณภาพการบริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วย การบริหารจัดการดังกล่าวช่วยเพิ่มความภักดีและการกลับมาใช้บริการซ้ำ

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

 

3. การสื่อสารการตลาด (Marketing Communications)

การสื่อสารการตลาดสำคัญในการสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ที่ดีต่อโรงพยาบาล โรงพยาบาลควรมีกลยุทธ์การสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อแจ้งข่าวสาร, โปรโมชั่น, และการเข้าถึงบริการใหม่ๆ ให้กับผู้ป่วยและสาธารณะได้ทราบอย่างกว้างขวาง

4. การบริหารประสบการณ์ผู้ป่วย (Patient Experience Management)

การจัดการประสบการณ์ผู้ป่วยมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงทุกจุดสัมผัสกับผู้ป่วย เริ่มตั้งแต่การต้อนรับ, การให้คำปรึกษา, การรักษา, จนถึงการติดตามผลหลังการรักษา การจัดการที่ดีสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจและส่งผลดีต่อการรักษาโดยรวม

5. การบริหารจัดการแบรนด์ (Brand Management)

การบริหารจัดการแบรนด์ของโรงพยาบาลช่วยให้สามารถสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในบริการทางการแพทย์ การมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งช่วยให้โรงพยาบาลโดดเด่นจากคู่แข่งและเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ป่วย

6. การวิเคราะห์และประเมินผล (Analytics and Evaluation)

การวิเคราะห์และประเมินผลช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดตามและวัดผลลัพธ์ของกลยุทธ์การตลาดและการบริหารจัดการลูกค้า เทคโนโลยีเช่นระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ตามข้อมูลจริงเพื่อปรับปรุงบริการและการตลาดให้เหมาะสมกับผู้ป่วย

7. การจัดการช่องทางการสื่อสาร (Communication Channel Management)

การจัดการช่องทางการสื่อสารเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่องทางเหล่านี้รวมถึงเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, การสื่อสารทางโทรศัพท์, และอีเมล การบริหารช่องทางเหล่านี้อย่างเหมาะสมช่วยให้โรงพยาบาลสามารถแจ้งข้อมูลสำคัญและให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

New call-to-action

8. การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)

ในยุคดิจิทัล การตลาดออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถเข้าถึงและดึงดูดผู้ป่วยใหม่ การใช้เทคนิคเช่นการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine Marketing), โซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง (Social Media Marketing), และการตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) ช่วยให้โรงพยาบาลสร้างการรับรู้และสร้างความสัมพันธ์กับผู้ป่วย

9. การประเมินและการจัดการความเสี่ยง (Risk Assessment and Management)

การประเมินและการจัดการความเสี่ยงช่วยให้โรงพยาบาลสามารถระบุ, ประเมิน, และจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการบริการและการดำเนินงาน การจัดการความเสี่ยงที่ดีช่วยป้องกันปัญหาและเพิ่มความมั่นใจให้กับทั้งผู้ป่วยและผู้บริหาร

10. การบริหารจัดการข้อมูล (Data Management)

การบริหารจัดการข้อมูลมีความสำคัญในการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ป่วย การใช้ระบบที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐานเพื่อการเก็บรักษาและการจัดการข้อมูลช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ

11. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริการลูกค้า (Information Technology in Customer Service)

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นวิธีที่สำคัญในการพัฒนาการบริการลูกค้าในโรงพยาบาล ระบบเช่นการนัดหมายออนไลน์, การติดตามผลการรักษาผ่านแอปพลิเคชัน, และบริการปรึกษาออนไลน์ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น การนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความถูกต้องของการบริการทางการแพทย์

12. การจัดการกลยุทธ์เนื้อหา (Content Strategy Management)

การพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพเกี่ยวกับบริการและการดูแลสุขภาพสามารถช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับโรงพยาบาล การจัดการกลยุทธ์เนื้อหาไม่เพียงแต่รวมถึงการสร้างบทความและวิดีโอที่ให้ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำให้เนื้อหาเหล่านั้นเข้าถึงได้ง่ายและเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ใช้บริการ

3 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนคนอ่าน คอนเทนต์ ให้มาเป็นลูกค้าของคุณง่ายๆ ที่ควรรู้

13. การบริหารโซเชียลมีเดีย (Social Media Management)

โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ป่วย การบริหารโซเชียลมีเดียที่ดีช่วยให้โรงพยาบาลสามารถตอบสนองคำถาม, แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับบริการและกิจกรรม, และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

14. การฝึกอบรมและพัฒนาทีมงาน (Staff Training and Development)

การฝึกอบรมและพัฒนาทีมงานเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บุคลากรมีความสามารถในการให้บริการที่ดีและมีประสิทธิภาพ การลงทุนในการพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้ทีมงานมีความพร้อมในการตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยอย่างเต็มที่

15. การวัดผลและประเมินความสำเร็จ (Performance Measurement and Evaluation)

การวัดผลและประเมินความสำเร็จเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลตรวจสอบและปรับปรุงการดำเนินงานและบริการอย่างต่อเนื่อง การใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ประสิทธิภาพช่วยให้สามารถจัดทำรายงานการดำเนินงานและหาจุดที่ต้องปรับปรุงเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วย

16. การจัดการบุคคลากรและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Management and Development)

การจัดการบุคคลากรในโรงพยาบาลไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและการบริหารจัดการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างแรงจูงใจ, การพัฒนาความสามารถ, และการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าทีมงานมีความพร้อมและสามารถให้บริการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย

17. การบริหารจัดการเทคโนโลยี (Technology Management)

การบริหารเทคโนโลยีในโรงพยาบาลครอบคลุมถึงการเลือก, การใช้งาน, และการบำรุงรักษาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งระบบสารสนเทศการแพทย์, อุปกรณ์การแพทย์, และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการปรับปรุงคุณภาพการรักษา

New Marketing Plan MarTech Plan

18. การบริหารการเงินและงบประมาณ (Financial and Budget Management)

การจัดการทางการเงินและงบประมาณในโรงพยาบาลมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางการเงินและการลงทุนในการปรับปรุงบริการ เทคนิคการบริหารการเงินที่ดีช่วยให้โรงพยาบาลสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมและรับมือกับความผันผวนของตลาดได้

19. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ (Compliance and Regulatory Affairs)

การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับในโรงพยาบาลเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อให้บริการดูแลรักษาสอดคล้องกับมาตรฐานขององค์กรด้านสุขภาพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดการที่ดีในด้านนี้ช่วยป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและรักษาความไว้วางใจจากผู้ป่วย

20. การพัฒนาและนวัตกรรม (Development and Innovation)

การนำนวัตกรรมมาใช้ในโรงพยาบาลไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้โรงพยาบาลสามารถนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างตรงจุดและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

21. การประเมินผลและความพึงพอใจของผู้ป่วย (Patient Outcome and Satisfaction Evaluation)

การติดตามและประเมินผลลัพธ์การรักษาและความพึงพอใจของผู้ป่วยเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลปรับปรุงคุณภาพการบริการ การสำรวจความคิดเห็นและการทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาช่วยให้สามารถระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา และนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการทำงานในโรงพยาบาล

22. การจัดการเครือข่ายการดูแลสุขภาพ (Health Care Network Management)

การสร้างและบำรุงรักษาเครือข่ายการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการรักษาที่หลากหลายและเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ การจัดการเครือข่ายที่ดีช่วยเพิ่มความสามารถในการรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจในบริการของโรงพยาบาล

23. การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ (Product and Service Development)

นวัตกรรมในผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดและรักษาผู้ป่วย โรงพยาบาลควรมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์และเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

24. การบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัย (Health and Safety Risk Management)

การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรับประกันว่าทุกแง่มุมของการดำเนินงานของโรงพยาบาลมีความปลอดภัยสูงสุด การมีมาตรการป้องกันและการตอบสนองที่เหมาะสมช่วยลดโอกาสของอุบัติเหตุและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ป่วย

25. การบริหารสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (Environmental and Sustainability Management)

การรับรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการที่ยั่งยืนช่วยให้โรงพยาบาลสามารถดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อชื่อเสียงของโรงพยาบาล แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม

26. การพัฒนาสุขภาพชุมชน (Community Health Development)

การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุขภาพชุมชนช่วยให้โรงพยาบาลสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่นและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชนสามารถลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงและช่วยลดภาระงานของโรงพยาบาลในระยะยาว

27. การประเมินและจัดการการพัฒนาคุณภาพ (Quality Improvement Assessment and Management)

การประเมินและจัดการคุณภาพช่วยให้โรงพยาบาลติดตามและปรับปรุงมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วย การตรวจสอบต่อเนื่องและการทบทวนกระบวนการทำงานในโรงพยาบาลจะช่วยให้มั่นใจว่าบริการที่ผู้ป่วยได้รับเป็นไปตามมาตรฐานสากลและพร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยอย่างเต็มที่

28. การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management)

การเปลี่ยนแปลงในโรงพยาบาลมักจำเป็นเพื่อการพัฒนาและปรับปรุง การจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนและมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ

29. การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านข้อมูล (Data Risk Management)

ในยุคข้อมูล การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ โรงพยาบาลต้องมีระบบการจัดการความเสี่ยงด้านข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือการสูญหายของข้อมูลที่อาจนำไปสู่ผลกระทบด้านกฎหมายและความเสียหายต่อชื่อเสียง

New call-to-action

30. การบริหารจัดการพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder and Partnership Management)

การสร้างและบำรุงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีคุณภาพสามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร, เทคโนโลยี, และความเชี่ยวชาญที่สำคัญ การบริหารจัดการความสัมพันธ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาของโรงพยาบาลได้อย่างยั่งยืน

31. การประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง (Continuous Performance Evaluation)

โรงพยาบาลควรมีระบบการประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบและประเมินผลการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ระบบนี้ช่วยให้สามารถระบุปัญหาและจุดอ่อนในการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินการแก้ไขและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ

32. การบริหารสัญญาและข้อตกลง (Contract and Agreement Management)

การจัดการสัญญาและข้อตกลงกับซัพพลายเออร์, ผู้ให้บริการ, และอื่น ๆ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การจัดการสัญญาที่ดีสามารถป้องกันความขัดแย้งและปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

33. การจัดการและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Management and Development)

การพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ IT ในโรงพยาบาลมีความสำคัญเพื่อการจัดเก็บข้อมูล, การวินิจฉัย, และการให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ การบำรุงรักษาระบบที่เชื่อถือได้ช่วยป้องกันความล่าช้าและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการบริการผู้ป่วย

34. การวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning - ERP)

การวางแผนทรัพยากรองค์กรช่วยให้โรงพยาบาลสามารถจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ ERP ที่มีประสิทธิภาพช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเงิน, บุคคล, การผลิตและอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและเชื่อมโยงข้อมูลสำคัญเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

35. การตลาดผ่านมือถือและดิจิทัล (Mobile and Digital Marketing)

ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีมือถือและแพลตฟอร์มดิจิทัลในการตลาดเป็นสิ่งจำเป็น โรงพยาบาลควรใช้แอพพลิเคชันมือถือ, เว็บไซต์, และโซเชียลมีเดียในการสื่อสารและโปรโมตบริการ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น

36. การจัดการความรู้ (Knowledge Management)

การจัดการความรู้ในโรงพยาบาลช่วยให้สามารถเก็บรวบรวม, จัดการ, และแบ่งปันความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและการบริหารจัดการทั่วไป การมีระบบการจัดการความรู้ที่ดีช่วยให้บุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อการพัฒนาบริการที่ต่อเนื่อง

37. การตอบสนองต่อวิกฤตและการจัดการภาวะฉุกเฉิน (Crisis Response and Emergency Management)

การมีแผนการตอบสนองต่อวิกฤติและการจัดการภาวะฉุกเฉินที่เข้มแข็งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงพยาบาลในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การระบาดของโรค, ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อาจกระทบต่อการให้บริการปกติและความปลอดภัยของผู้ป่วย

38. การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร (Staff Capability Development)

การลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถของพนักงานเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้กับโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพการดูแลรักษาและบริการที่มอบให้แก่ผู้ป่วย

39. การบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยี (Data and Technology Integration)

การบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญในยุคดิจิทัล เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยสำหรับการตัดสินใจและการปรับปรุงการดูแลรักษา ระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างดีจะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถประเมินผลลัพธ์การรักษาและปรับปรุงการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

40. การบริหารความหลากหลายและการรวม (Diversity Management and Inclusion)

การบริหารความหลากหลายและการรวมให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและเคารพในความแตกต่าง โรงพยาบาลที่สามารถรองรับความหลากหลายของทั้งพนักงานและผู้ป่วยจะสามารถส่งเสริมบรรยากาศของการยอมรับและความเท่าเทียมที่ส่งผลดีต่อทั้งผลลัพธ์การรักษาและความพึงพอใจของผู้ป่วย

41. การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกและอสังหาริมทรัพย์ (Facilities and Real Estate Management)

การบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกและอสังหาริมทรัพย์ของโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความพร้อมใช้งานของสถานที่และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการให้บริการสุขภาพ การบำรุงรักษาอย่างเป็นระบบช่วยให้ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในสภาพที่ดี ส่งผลให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างไม่มีสะดุดและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

42. การจัดการประสบการณ์ของพนักงาน (Employee Experience Management)

โรงพยาบาลที่มีการจัดการประสบการณ์ของพนักงานที่ดีสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานและรักษาพนักงานคุณภาพได้ การมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา, การสนับสนุน และการมอบหมายงานที่เหมาะสมกับทักษะและความสนใจของพนักงานช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและลดอัตราการเปลี่ยนแปลงของพนักงาน

43. การตลาดภายใน (Internal Marketing)

การตลาดภายในมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารวิสัยทัศน์, ค่านิยม, และเป้าหมายของโรงพยาบาลไปยังพนักงานทุกระดับ การมีพนักงานที่เข้าใจและมีส่วนร่วมในเป้าหมายร่วมกันช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีมภายในองค์กร

New Call-to-action

44. การบริหารความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (External Stakeholder Relationship Management)

การจัดการความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก เช่น ซัพพลายเออร์, หน่วยงานราชการ, และชุมชนท้องถิ่น เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและรับรองการสนับสนุนจากภายนอกที่สำคัญต่อการดำเนินงาน

45. การจัดการและพัฒนาทรัพยากรทางการแพทย์ (Medical Resource Management and Development)

การจัดหาและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ทางการแพทย์และทรัพยากรเช่นยารักษาโรค, เทคโนโลยีการแพทย์ล่าสุด, และการฝึกอบรมทางการแพทย์ ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการดูแลผู้ป่วยด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด

46. การประเมินผลและติดตามผล (Monitoring and Evaluation)

การมีระบบการประเมินผลและติดตามผลที่เข้มข้นช่วยให้โรงพยาบาลสามารถตรวจสอบและวัดผลของแต่ละโครงการหรือบริการที่ดำเนินการได้อย่างแม่นยำ สิ่งนี้ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยและการบริหารจัดการทั่วไป

47. การบริหารการปรับปรุงกระบวนการ (Process Improvement Management)

โรงพยาบาลควรมีการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็วและคุณภาพของการให้บริการ การใช้เทคนิคการจัดการคุณภาพ เช่น Six Sigma หรือ Lean Management, ช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว

48. การบริหารความยั่งยืนด้านสุขภาพ (Health Sustainability Management)

การบริหารความยั่งยืนด้านสุขภาพไม่เพียงแต่รวมถึงการจัดการทรัพยากรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนานโยบายและโปรแกรมที่รองรับการให้บริการสุขภาพอย่างยั่งยืน เพื่อให้แน่ใจว่าโรงพยาบาลสามารถดำเนินการในระยะยาวโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ

49. การบริหารจัดการและพัฒนาอาชีพพนักงาน (Career Management and Development)

การสนับสนุนและพัฒนาอาชีพของพนักงานในโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาและส่งเสริมบุคลากรที่มีความสามารถ การมีโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้ในสายอาชีพจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและเสริมสร้างทีมงานที่มุ่งมั่นและมีประสิทธิผล

50. การจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data Management and Analytics)

การจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานในโรงพยาบาลสมัยใหม่ การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้โรงพยาบาลสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูล พัฒนาบริการ และปรับปรุงการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างมีเหตุผล

การบูรณาการกลยุทธ์ทั้งหมดเหล่านี้ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถนำเสนอการดูแลที่ครอบคลุมและเอื้อต่อการรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ สร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับทั้งผู้ป่วยและบุคลากร และสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตและการพัฒนาในอนาคตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิผล.

New call-to-action

 

79 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้

300 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้ ปี 2024

100 คำศัพท์ สำหรับงาน CRM ที่คุณควรรู้

100 เมตริก (Metric) ตัวชี้วัด (Indicator) ในการบริหารความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) 

100 METRICS ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับ TECH STARTUP BUSINESS

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

 

Recent Posts

OGF Podcast